วัดปทุมคงคา


ละติจูด 15.6052312145 , ลองจิจูด 103.600220198

พิกัด

ตำบลเมืองบัว อำเภออำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด รหัสไปรษณีย์ 32190

ประเภทแหล่งศิลปกรรมฯ

วัด วัดร้าง ศาสนสถาน

ความสำคัญ/ลักษณะ

วัดปทุมคงคา สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 14 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา น.ส. 3 เลขที่ 3522 อาณาเขต อาคารเสนาสนะประกอบด้วยอุโบสถ กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. 2523 ศาลาการเปรียญ กว้าง 25 เมตร ยาว 50 เมตร เป็นอาคารไม้ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2512 หอสวดมนต์ กว้าง 25 เมตร ยาว 50 เมตร เป็นอาคารไม้ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2512 กุฏิสงฆ์จํานวน 3 หลัง เป็นอาคารไม้ 1 หลัง และครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 หลัง และศาลาบําเพ็ญกุศล จํานวน 1 หลัง สร้างด้วย ไม่ปข์นียวัตถุ มีพระประธาน 1 องค์ และพระพุทธรูป 3องค์

วัดปทุมคงคาตั้งเมื่อ พ.ศ. 2350 เดิมชื่อว่า วัดเมืองบัว ต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดปทุมคงคา แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดใหญ่ ได้รับพระราข์ทานวิสุงคามสีมาเมื่อ วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2524 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาส เท่าที่ทราบนามคือ รูปที่ 1 พระไพรบรูณ์ รูปที่ 2 พระอุ้ม รูปที่ 3 พระครูสุนทรธรรมธาดา รูปที่ 4 พระคู รูปที่ 5 พระพัน รูปที่ 6 พระสอน รูปที่ 7 พระพุฒ รูปที่ 8 พระสิงห์ รูปที่ 9 พระจันดา รูปที่ 10 พระเซย รูปที่ 11 พระท่อน รูปที่ 12 พระบุญมา รูปที่ 13 พระฝั่ง รูปที่ 14 พระสําเนียง รูปที่ 15 พระพรมมา รูปที่ 16 พระสาย รูปที่ 17 พระครูปทุมสังฆวิสุทธิ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 จนถึงปัจจุบัน

สถานการณ์สิ่งแวดล้อม

สิมเก่า

สิมหรือพระอุโบสถที่เก่าแก่ 230-260 ปี (พ.ศ.2315-พ.ศ. 2285) ที่ วัดปทุมคงคา (ประวัติในเว็บ) จากที่ดูแล้ว น่าจะไม่เกิน ๑๒๐ ปี หากแต่ว่านับจากการสร้างแล้ว บูรณะหลายครั้งหลายหน เพราะจากที่ดูสภาพสิมในปัจจุบัน สิมเป็นสิมก่ออิฐถือปูน โครงสร้างภายในทําด้วยไม้ เป็นสิมทีบเข้าออกทางเดียว หันหน้าไปทางทิศตะวันตก (มหาอุตม์) บันไดยกสูง ไม่มีราวบันได บันไดสงตามลักษณะของฐานสีมซึ่งเป็นฐานเอวขันยกสูง ตัวสิมแบ่งเป็นของ 3 ช่อง ของแรกและของสองมีหน้าต่าง หลังคายกขึ้น มุงด้วยสังกะสี โหง่ทําด้วยไม้ การทําปูน มีการขุดพบกเปลือกหอย คาดว่าจะนํามาเป็นส่วนประกอบในการทําปูน ซึ่งจะมียางบง เอ็นวัว เอ็นควาย เปลือกหอย เป็นส่วน ผสม ฝีมือช่างพื้นบ้านผสมช่างญวน

สิมวัดปทุมคงคา ต.เมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ในเมืองโบราณซึ่งมีคูน้ําคันดินล้อมรอบ ปรากฏหลักฐานทางโบราณคดี ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอน ปลายราว 2,500 ปีมาแล้ว งจนสมัยที่ได้รับอิทธิพลเขมรสมัยปาปวน ดังปรากฏในโบราณสถาน "คู่เมืองบัว" ซึ่งมีอายุในราว พุทธศตวรรษที่ 17-18 เป็นประจักษ์พยานอยู่

จากการสัมภาษณ์พ่อใหญ่สม นลทรา อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องเก่าๆ ของหมู่บ้าน และทันได้เห็นการก่อสร้างสิมวัดปทุมคงคา กล่าวว่า ในสมัยตัวท่านยังเป็น เด็กอายุประมาณ 7 ขวบ (งพ.ศ. 2470) ได้เห็นพ่อแม่รวมทั้งข้าวบ้านคนอื่นๆ ร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างสิ้มนี้ แต่เป็นการก่อสร้างครั้งที่สองแล้ว โดยได้รอสิมหลังเก่าออก ใช้เวลาก่อสร้างประมาณสองปีจึงแล้วเสร็จ งในสมัยนั้นวัสดุก่อสร้าง เช่น อิฐ (ดิน) ปูนสอ ปูนฉาบ ล้วนสามารถหาและทําขึ้นเองทั้งสิ้น จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ยังเป็นที่รับรู้ กันในหมู่ข่าวบ้านว่า บริเวณที่เรียกว่า "ท่าดินก" ซึ่งอยู่ริมลําเลี้ยว ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร นั้นเคยมีการปั่นอิฐและเผาอิฐ กันตั้งแต่เดิม - สิมวัดปทุมคงคานี้ได้ข่าวญวนที่ข่าวบ้านเรียกว่า แกวปากวาก (ปากแหว่ง) มีอาชีพขายผ้าตามมู่บ้านต่างๆ มาเป็นข่างอํานวยการก่อสร้าง เพราะถือกันว่าพําวญวนเป็น ผู้มีความรู้ความชํานาญเรื่องงานปูนมากกว่าชาวอีสาน ตามที่ปรากฏในปัจจุบัน สิ้มวัดปทุมคงคาเป็นสิ้มทึบ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นช่างพื้นบ้าน ไทอีสาน ผสมฝีมือช่างญวน ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดความยาวสามห้อง (กว้าง 8 เมตร ยาว 10.1 เมตร สูง 7.2 เมตร) ฐานแอวขัน (ฐานปัทม์) มีลักษณะ พิเศษ คือ ที่มุมของฐานตกแต่งด้วยการก่ออิฐเสาติดผนัง ล้อกับเส้นลวดบัวของฐาน ส่วนนี้ยังคงเป็นฝีมือช่างญวน

รอบฐานปักใบเสมาหินขนาดเล็ก ถัดขึ้นมาจากฐานเป็นผนังทึบ ผนังด้านข้างตกแต่งด้วยเสาติดผนังแบบเรียบๆ เจาะช่องหน้าต่างด้านละสองของ มีบานหน้าต่างไม้ ปิดเปิดได้ ส่วนด้านหน้าเป็นประตูทางเข้า มีบันไดทางขึ้นอย่างเรียบๆ ส่วนหลังคา ปัจจุบันมุงด้วยสังกะสีสองขึ้นเพื่อระบายอากาศ รอบข่ายคามีเสาปีกนก แต่ปัจจุบันมีการ ต่อเติมหลังคายื่นออกมาคลุมบันไดทางขึ้น ภายในสิ้มมีฐานชุกชี ประดิษฐานพระประธาน และพระพุทธรูปไม้จํานวนหนึ่ง

เมื่อ พ.ศ. 2505 ได้มีการซ่อมแซมครั้งหนึ่ง โดยนําปูนซีเมนต์มาฉาบผนังส่วนชํารุด และเปลี่ยนหลังคาแป้นเกล็ดไม้มาเป็นสังกะสี ปัจจุบันวัดปทุมคงคา ได้ก่อสร้าง พระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น สิ้มเก่าหลังนี้จึงไม่ได้ประกอบสังฆกรรมอีกต่อไป มีเพียงพระสงฆ์จําพรรษาอยู่เท่านั้น วัสดุต่างๆ รวมทั้งโครงสร้างภายในภายนอก ขาดการเอาใจ ใส่ดูแลเท่าที่ควร จึงมีสภาพชํารุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก

จากการสอบถามประวัติการสร้างสิมวัดปทุมคงคา ทําให้ทราบว่า เมื่อประมาณ 70-80 ปี ที่ผ่านมา ซากฟอสซิลหอยที่ท่งกลาร้องไห้ เป็นแหล่งปนที่สําคัญของชาว อีสานที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ คําบอกเล่านี้ชวนให้คิดว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อหลายร้อยปีก่อน การสร้างโบราณสถานต่างๆ ที่ปรากฏร่องรอยเหลือให้เห็นอยู่มากมายใน พื้นที่แถบนี้นั้น ได้ใช้วัสดุจากแหล่งเดียวกัน

แก้ไขเมื่อ

2021-09-21

ข้อมูลสถิติ
หน่วยอนุรักษ์ฯ
ภาพประจำแหล่งศิลปกรรม
แผนงานและโครงการ
การเสนอแผนงานโครงการ
ปี แผนงาน ชื่อโครงการ รายละเอียด งบประมาณ เอกสาร สถานะ
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ปี แผนงาน ชื่อโครงการ งบประมาณ วันที่รายงาน เอกสาร