วัดพะเยาว์


ละติจูด 14.5575669787 , ลองจิจูด 100.855105996

พิกัด

ตำบลศาลารีไทย อำเภออำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี

ประเภทแหล่งศิลปกรรมฯ

วัด วัดร้าง ศาสนสถาน

ความสำคัญ/ลักษณะ

วัดพะเยาว์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำป่าสักด้านทิศเหนือ หมู่ที่ 1 ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ด้านหลังวัดมีถนนสายปากบาง – สระบุรีผ่าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2185 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าปราสาททอง ภายในวัดมีพระพุทธรูปทองคำ ที่จากการสันนิษฐานคาดว่า พระพุทธรูปทองคำ น่าจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ยุคสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ช่วง พ.ศ. 2034-2072 ก่อนที่จะมีผู้อัญเชิญพระพุทธรูปทองคำ ออกไปไกลจากกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้พ้นจากเงื้อมมือของข้าศึก ในช่วงสงครามระหว่างกองทัพไทยกับพม่าราว ปี พ.ศ. 2308-2310 โดยได้ทำการพอกปูนหุ้มองค์พระไว้เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของคนทั่วไปได้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2420 กลางสมัยรัชกาลที่ 5 ชาวบ้านศาลารีไทย หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ ร่วมใจกันสร้างวัดอุทิศสโมสร แต่ยังขาดพระประธาน ครั้นทราบข่าวว่ามีพระพุทธรูปปูนปั้นถูกทิ้งในวัดร้างแห่งหนึ่ง ใน อ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่วัดอุทิศสโมสร ครั้งวัดอุทิศสโมสรกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากชาวบ้านอพยพย้ายถิ่นฐานหนีภัยแล้ง พระพุทธรูปองค์นี้จึงถูกปล่อยทิ้งไว้อีกครั้ง ปี พ.ศ. 2484 ทางวัดพะเยาว์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ต้องการพระประธานองค์ใหม่ สำหรับพระอุโบสถหลังใหม่ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันอัญเชิญพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้จากวัดอุทิศสโมสร มาประดิษฐานที่วัดพะเยาว์แต่นั้นเป็นต้นมา ครั้นพอปี พ.ศ. 2493 พระเทพวิมลโมลี (มณี สุวโจ) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีในขณะนั้น เห็นพระประธานในอุโบสถของวัดมีพุทธลักษณะงดงามดี แต่ตามองค์พระมีรอยปูนกะเทาะดูกระดำกระด่างอยู่ทั่วไป จึงมีเถรบัญชาให้พระอธิการ เกลี้ยง มีสวัสดิ์ เจ้าอาวาสในเวลานั้นทำความสะอาดองค์พระให้ดูสดใสสง่างาม ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดองค์พระอยู่นั้น ปรากฏว่าปูนที่พอกองค์พระบางส่วนกะเทาะหลุดออกมาจนเห็นเนื้อทอง ซึ่งเป็นผิวองค์พระแท้จริงที่ถูกซ่อนไว้ จึงช่วยกันกะเทาะปูนที่พอกองค์พระไว้เป็นเวลานานออกจนหมด และพบว่าพระพุทธรูปองค์นี้ องค์พระเป็นโลหะทองทั้งองค์ สร้างความปลาบปลื้มปิติแก่ชาวบ้านในที่นั้นเป็นอย่างยิ่ง ชาวบ้านจึงพากันเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า""หลวงพ่อทองคำ"" ซึ่งเป็นศิลปะแบบอยุธยาบริสุทธิ์ ประทังนั่งในปางสมาธิ แบบขับสมาธิราบ ประทับนั่งในลักษณะที่ดูองอาจผึ่งผายสง่างาม มีหน้าตักกว้าง 110 ซม. ส่วนสูง 170 ซม. พระพักตร์กลม ริมพระโอษฐ์ยิ้มนิด ๆ ยอดพระเศียรเป็นเปลวอุณาโลม เป็นพระพุทธรูปที่มีส่วนผสมทองคำถึง 70 เปอร์เซ็น ซึ่งมากกว่าพระพุทธรูปทองคำทั้งหมดในประเทศไทย ปัจจุบันทางจังหวัดสระบุรีได้ชูพระพุทธรูปทองคำเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นประดิษฐานไว้ในศาลาใหญ่ และสร้างประตูให้มั่นคงแข็งแรงใกล้หูใกล้ตาเจ้าอาวาสและพระภิกษุในวัด พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลเพื่อป้องกันการโจรกรรมจากมารศาสนา สำหรับหลวงพ่อทองคำถือเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์สมัยอยุธยาองค์เดียวที่รอดพ้นจากการสงครามกับพม่า ที่ยังเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และพุทธศิลป์มากมาย ไม่แพ้พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย อย่างหลวงพ่อโต วัดไตรมิตรฯที่ กทม.เลยทีเดียว

สถานการณ์สิ่งแวดล้อม

-

แก้ไขเมื่อ

2020-12-03

ข้อมูลสถิติ
หน่วยอนุรักษ์ฯ
ภาพประจำแหล่งศิลปกรรม
- ไม่มีรูปภาพ -
แผนงานและโครงการ
- ไม่มีเอกสาร -