ละติจูด 13.960809 , ลองจิจูด 99.758624
พิกัด
ตำบลท่าเรือ อำเภออำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี รหัสไปรษณีย์ 71130
ประเภทแหล่งศิลปกรรมฯ
วัด วัดร้าง ศาสนสถาน
ความสำคัญ/ลักษณะ
อุโบสถวัดท่าเรือ
๔๖๘ ถนนแสงชูโต ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา กาญจนบุรี ๗๑๑๓๐
วัดท่าเรือ เป็นวัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งที่อยู่บนเส้นทางสัญจรทางน้ำตามลำน้ำแม่กลอง บริเวณวัดตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสถานที่เป็นที่ตั้งของท่าเรือสำคัญในอดีต ที่คนแต่โบราณเรียกว่า ท่าเรือพระแท่น[1] เป็นที่พักของเรือที่ใช้สัญจรขึ้นล่องขนถ่ายสินค้า และเป็นท่าเรือสำคัญและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นท่าที่ผู้จะเดินทางไปนมัสการพระแทนดงรัง จะต้องใช้ท่าเรือนี้เดินทางต่อไปเพื่อนมัสการพระแท่นดงรัง วัดท่าเรือตั้งอยู่ที่ ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา กาญจนบุรี
ตามประวัติระบุว่า เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๐๘[2] หลวงจงภักดี (ต้นสกุลพันธุ์ภักดี) เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้น เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้วไม่มีพระพุทธรูปที่จะบูชาประจำวัด จึงได้ไปอาราธนาพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์ร้างบ้านท่าสารอยู่เหนือจากตำบลท่าเรือขึ้นไปตามลำน้ำประมาณ 1 กิโลเมตร ให้มาเป็นพระประธานประจำวัด และขนานนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า "หลวงพ่อเพชร" (ภาพ)
พุทธลักษณะโดยรวมเป็นพระพุทธรูปตอนปลายสมัยอยุธยา ปางขัดสมาธิ แต่ที่พิเศษสร้างด้วยศิลาแดง ขนาดหน้าตัก ๒๙ นิ้ว มีลักษณะพุทธศิลป์แตกต่างจากองค์อื่น ๆ คือ มีพระพักตร์ดุ มีพระศก (เกศา) เป็นหนามขนุนซึ่งบ่งบอกว่าสร้างในสมัยอู่ทอง รวมไปถึงยอดพระเกตุบนสุด ก็เป็นลักษณะหนามขนุนด้วย
อุโบสถ
พระครูถาวรกาญจนกิจ เจ้าอาวาสวัดท่าเรือรูปปัจจุบัน ให้ข้อมูลว่า โบสถ์เก่าของวัดน่าจะสร้างเมือปี พ.ศ. ๒๔๖๐ เนื่องจากกระเบื้องหลังคาโบสถ์เดิมมุงเป็นตัวเลข ๒๔๖๐ ไว้ หากเป็นดังนั้น อุโบสถหลังนี้จะก่อสร้างตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
อุโบสถเก่านี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายคราว แต่โดยภาพรวมถือว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโดยรวมนัก ตัวอาคารเป็นอุโบสถก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่บนฐานปัทม์ มีพาไลยื่นออกมารองรับด้านหน้าอุโบสถ ทางเข้าออกพาไลมี ๒ ช่องทาง ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ เสาทางขึ้นเป็นเสาสี่เหลี่ยม ยอดเสาสอบเข้าเป็นทรงปีระมิด ตัวอุโบสถมีประตูทางเข้ามี ๒ ช่อง กำแพงด้านทิศตะวันตกทึบ ช่องหน้าต่างมีด้านละ ๒ ช่อง ภายในมีการปรับปรุงพื้น ฝ้าเพดาน และฐานชุกชีที่สร้างขึ้นใหม่ พระประธานและพระพุทธรูปประจำอุโบสถถูกย้ายออกไปทั้งหมด
พระประธานในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ส่วนฐานของพระมีข้อความหล่อติดไว้ดังนี้ “พระองค์นี้ นางมอน หลงกุศล สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓ อุทิศมนุญผลฉลองคุณ - นายหลง - บิดา, นางพุก - มารดา” ปัจจุบันพระประธานองค์นี้ทางวัดเคลื่อนย้ายไปประดิษฐานที่กุฏิสงฆ์
หลังคาอุโบสถเป็นหลังคาซ้อน ๒ ชั้น มุงกระเบื้อง เครื่องลำยองเป็นปูนทั้งหมด ช่อฟ้าปากครุฑ หางหงส์เป็นแบบนาคเศียรเดียว หน้าบันด้านหน้าและหลังเป็นปูนปั้นเขียนสีลายพรรณพฤกษา ตรงกลางมีรูปปูนปั้นเทพพนมเช่นเดียวกัน
แต่เดิมโดยรอบอุโบสถมีกำแพงแก้วล้อมรอบ และเจดีย์อนุสาวรีย์บรรจุเถ้าอัฐิที่ชาวบ้านสร้างขึ้นค่อนช้างหนาแน่น (ดังภาพ) ปัจจุบันทั้งกำแพงแก้วทั้ง ๔ ด้าน และเจดีย์บรรจุอัฐิได้ถูกรื้อถอนออกไปทั้งหมด เนื่องจากทางวัดต้องการใช้พื้นที่บางส่วนในการก่อสร้างศาลาทรงจัตุรมุขหลังใหม่
[1] โดยนัยหมายถึงท่าเทียบเรือสำหรับการเดินทางต่อไปเพื่อนมัสการพระแท่นดงรัง
[2] ข้อมูลบางแห่งบางแห่งว่าตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ รับวิสุงคามสีมา ๒๕๑๕
สถานการณ์สิ่งแวดล้อม
-
แก้ไขเมื่อ
2021-08-20
การเสนอแผนงานโครงการ
ปี | แผนงาน | ชื่อโครงการ | รายละเอียด | งบประมาณ | เอกสาร | สถานะ |
---|
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ปี | แผนงาน | ชื่อโครงการ | งบประมาณ | วันที่รายงาน | เอกสาร |
---|