วัดเพชรบุรี


ละติจูด 14.6960457 , ลองจิจูด 103.3102893

พิกัด

ตำบลทุ่งมน อำเภออำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ รหัสไปรษณีย์ 32140

ประเภทแหล่งศิลปกรรมฯ

วัด วัดร้าง ศาสนสถาน

ความสำคัญ/ลักษณะ

วัดเพชรบุรี เป็นวัดราฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวตำบลทุ่งมน มานานอย่างน้อย 221 กว่าปี ในปีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2542 ได้รับการอนุญาตให้ตั้งวัดอย่างเป็นทางการ  ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับการประกาศจัดตั้งหมู่บ้านตาปาง  ตำบลทุ่งมน  อำเภอปราสาท  จังหวัดสุรินทร์  อีกด้วย  จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า  “เมื่อหลวงพ่อเพชร  หลวงพ่อแก้ว  นำพาคณะสงฆ์และญาติโยมมาร่วมสร้างวัดใหม่แล้ว  ประชาชนชาวบ้านทุ่งมนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้พากันอพยพย้ายครัวเรือนมาตั้งถิ่นฐานที่อยู่ใหม่ตรงบริเวณบ้านตาปาง  บ้านตาดอก  บ้านสมุด  เพื่อจะได้ร่วมกันทำนุบำรุงอุปถัมภ์ค้ำชูวัดแห่งใหม่นี้”  การปกครองท้องที่ของราชการบ้านเมืองนั้น ในปี พ.ศ. 2530  อยู่ในเขตพื้นที่บ้านตาปาง  หมู่ที่  6  ตำบลทุ่งมน  อำเภอปราสาท  จังหวัดสุรินทร์  ต่อมาเมื่อมีการแบ่งเขตการปกครองคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมนขึ้นมาใหม่   วัดเพชรบุรีจึงถูกเปลี่ยนแปลงจัดให้อยู่ในเขตการปกครองท้องที่บ้านทุ่งมน  หมู่ที่  2  ตำบลทุ่งมน  อำเภอปราสาท  จังหวัดสุรินทร์  และในปี พ.ศ. 2536 หน่วยงานราชการได้แบ่งแยกเขตการปกครองตำบลทุ่งมนออกเป็น  2  ตำบลคือ  1 ตำบลทุ่งมน  มี  11  หมู่บ้าน 2 ตำบลสมุด  มี  8  หมู่บ้าน   วัดเพชรบุรีจึงเป็นส่วนหนึ่งในเขตการปกครองท้องที่ของบ้านทุ่งมนตะวันออก  บ้านเลขที่ 106  หมู่ที่  1  ตำบลสมุด  อำเภอปราสาท  จังหวัดสุรินทร์  32140

วัดเพชรบุรี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่  27  พฤศจิกายน 2371 เขตวิสุงคามสีมามีขนาดกว้าง  8  เมตร  ยาว  16  เมตร  เดิมชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดทุ่งมนตะวันออก” โดยตั้งแต่แรกบุกเบิกสร้างวัดนั้นที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินป่าไม้รกทึบ  ภายหลังมีนายกฤษ – นางอี แก้วแบน, นายแก้ว – นางกลัด  ลับแล,

นายบูรณ์  ศรีราม, นายมี –นางมิ่ง  จงมีเสร็จ, นายกอง  จงมีเสร็จ (พี่ชายหลวงพ่อแก้ว) พุทธศาสนิกชนและประชาชนชาวบ้าน ร่วมกันมอบถวายหนังสือเอกสารที่ดินให้วัดเมื่อ พ.ศ. 2355 และได้อาราธนานิมนต์พระเดชพระคุณหลวงปู่เพชร  พำนักจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสวัดรูปแรก ภายหลังจากหลวงปู่เพชรมรณภาพ  หลวงปู่แก้วได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่และเจ้าเมืองสุรินทร์ในสมัยนั้นได้ออกว่าราชการตรวจเยี่ยมวัด เจ้าเมืองสุรินทร์รับทราบว่า “วัดแห่งนี้หลวงปู่เพชรเป็นผู้นำพาคณะสงฆ์และประชาชนบุกเบิกสร้างวัดมาโดยตลอด”  เจ้าเมืองสุรินทร์จึงได้ ขอเทิดทูนเกียรติคุณของหลวงปู่เพชรและตั้งชื่อวัดทุ่งมนตะวันออกใหม่ว่า  “วัดเพชรบุรี”

หลวงปู่แก้ว เจ้าอาวาสวัดเพชรบุรีรูปที่ 2 ได้สั่งสอนคณะสงฆ์และนำพาญาติโยม  ศึกษาธรรม  ปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน  ด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง  จนเป็นที่ประจักษ์ตาต่อเจ้าคณะผู้ปกครองคณะสงฆ์ในยุคนั้น จึงได้ออกประกาศแต่งตั้งให้หลวงปู่แก้วเป็นอุปัชฌายะ  มีตำแหน่งหน้าที่เป็นประธานในการให้บรรพชาอุปสมบทให้แก่กุลบุตร ได้สั่งสอนกุลบุตรให้เว้นกิจควรเว้น ประพฤติกิจควรประพฤติ  ในหลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนาตลอดไป  พุทธศาสนิกชนศิษยานุศิษย์จึงเรียกหลวงปู่แก้วอย่างเป็นทางการว่า  “หลวงปู่พระอุปัชฌาย์แก้ว”

ภายหลังจากที่หลวงปู่พระอุปัชฌาย์แก้วมรณภาพแล้ว ได้มีบูรพาจารย์หลายรูปคือ  หลวงปู่วาง  หลวงปู่วอน  หลวงปู่เสาร์  หลวงปู่ลาน ครองวัดดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตามลำดับมาบางรูปก็มรณภาพ  บางรูปก็ลาสิขาบท  บางรูปก็อยู่ครองวัดนานหลายพรรษา จวบจนมาถึงยุคสมัยของพระครูอนุรักษ์สัจธรรม (หลวงปู่จริง สุวณฺณโชโต) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี  ท่านได้ช่วยเหลือชุมชนสังคมประเทศชาติเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสมากมาย จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งมน  ปกครองคณะสงฆ์ทั้งตำบลทุ่งมน และในฐานะเจ้าอาวาสผู้ปกครองวัดเพชรบุรีได้ดำรินำพาคณะพระภิกษุสงฆ์ที่บวชอยู่ด้วยกันในยุคนั้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์บอกบุญญาติโยมให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมสร้างกุฎิสงฆ์ด้วยไม้หลังใหญ่ 2 ชั้น จำนวน 12 ห้อง สร้างเสร็จเมื่อ  พ.ศ. 2492  (มีสลักปีที่สร้างเสร็จไว้ที่หน้าบันของกุฎิ) และ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2492  สังฆมนตรีว่าการองค์การปกครอง ได้ออกหนังสือแต่งตั้งให้เจ้าอธิการจริง สุวณฺณโชโต  วัดเพชรบุรี ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์  เป็นอุปัชฌายะในเขตตำบลทุ่งมน  มีตำแหน่งหน้าที่เป็นประธานในการให้บรรพชาอุปสมบท  ตามบทบัญญัติแห่งสังฆาณัติระเบียบพระอุปัชฌายะ  พ.ศ.  2487 หลวงปู่จริง สุวณฺณโชโต ได้นำพาศิษยานุศิษย์ทั่วทุกสารทิศ ร่วมสร้างสาธารณูปการต่าง ๆ เช่น สร้างโรงเรียน  โรงพยาบาท และอื่น ๆ อีกมากมายตลอดชีวิตของท่าน และเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2515  หลวงปู่จริงได้มรณภาพลงด้วยโรคชราอย่างสงบ

หลังจากหลวงปู่จริงได้มรณภาพแล้ว คณะสงฆ์วัดเพชรบุรีและญาติโยมพุทธศาสนิกชน นำโดยนายบรัน บานบัว  กำนันตำบลทุ่งมน ได้อาราธนานิมนต์พระครูประสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์  พรหมปัญโญ)  มาพำนักจำพรรษาเป็นเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรีสืบต่อไปจนท่านมรณภาพละสังขาร เมื่อวันที่ 5 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 และในยุคสมัยของหลวงปู่หงษ์  พรหมปัญโญ  ถือได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองมาก  หลวงปู่หงษ์ท่านสร้างชื่อเสียงให้วัดเพชรบุรีได้เป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องที่หลวงปู่หงษ์ได้นำพาให้ทุกคนอนุรักษ์ป่าไม้หลายพันไร่  ขุดสระเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ สร้างฝายกั้นน้ำเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง  จนได้รับพระราชทานธง “พิทักษ์ป่า  เพื่อรักษาชีวิต” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เมื่อปี พ.ศ. 2540 และสุดท้ายของชีวิตหลวงปู่หงส์ ก่อนมรณภาพหลายปีได้มีการเขียนบันทึกข้อความพินัยกรรมไว้ว่า  ขอให้ศิษยานุศิษย์บรรจุสังขารของหลวงปู่ไว้ในโลงแก้วให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบสักการะบูชาตลอดไป

สถานการณ์สิ่งแวดล้อม

-

แก้ไขเมื่อ

2021-09-06

ข้อมูลสถิติ
หน่วยอนุรักษ์ฯ
ภาพประจำแหล่งศิลปกรรม
แผนงานและโครงการ
การเสนอแผนงานโครงการ
ปี แผนงาน ชื่อโครงการ รายละเอียด งบประมาณ เอกสาร สถานะ
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ปี แผนงาน ชื่อโครงการ งบประมาณ วันที่รายงาน เอกสาร