กำแพงเมืองเก่า


ละติจูด 16.4200289966 , ลองจิจูด 101.160006041

พิกัด

ตำบลในเมือง อำเภออำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ รหัสไปรษณีย์ 67000

ประเภทแหล่งศิลปกรรมฯ

ชุมชนโบราณ เมืองโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์

ความสำคัญ/ลักษณะ

ประวัติความเป็นมา

     กำแพงเมืองเพชรบูรณ์ได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสมัย กรุงศรีอยุธยา เมื่อประมาณ  500 ปีที่แล้ว ประกอบด้วยแนว กำแพงเมืองทั้ง 4 ด้าน มีป้อมปราการทั้ง 4 มุม ได้แก่ ป้อมศาลเจ้าพ่อ ป้อมถนนหลักเมือง ป้อมสนามชัย ป้อมศาลเจ้าแม่ และมีประตูเมืองอยู่ กึ่งกลางกำแพงแต่ละด้านทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ ประตูโพธิ์เย็น ประตูดาว (ประตูผี) ประตูประชาสรรค์ และประตูชุมพล ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงการสร้างเมืองเพชรบูรณ์ ในคราวที่เสด็จมาตรวจราชการที่เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อ พ.ศ.2447 ความว่า “ตัวเมืองเพชรบูรณ์เป็นเมืองที่มีป้อมปราการสร้างมาแต่โบราณ เห็นได้ว่าตั้งเป็นเมืองด่านหน้าโดยเลือกที่ชัยภูมิตรงแนวภูเขาเข้ามาใกล้กับลำน้ำป่าสัก ทางเดินทัพแคบกว่าแห่งอื่น ตั้งเมืองสกัดทางน้ำปราการทั้งสองฟาก เอาแม่น้ำป่าสักไว้กลางเมือง เช่น พิษณุโลก สังเกตตามรอยที่ยังปรากฎเห็นได้ว่า สร้างเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกสร้างในสมัยกรุงสุโขทัย แนวปราการขนาดยาวด้านละ 20 เส้น เดิมเป็นแต่ถมดินปักเสาระเนียดข้างบน มาสร้างใหม่ในที่อันเดียวกันกับเมืองสมัยกรุงศรีอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง ร่นแนวเข้ามา และมีป้อมปราการรายรอบสำหรับสู้ข้าศึกจะยกมาแต่ล้านช้าง”

องค์ประกอบสำคัญของแหล่งมรดก

       ป้อมปราการ ประตูเมือง และกำแพงเมืองเก่าของเมืองเพชรบูรณ์ สร้างขึ้นใน 2 ยุค ดังนี้

       1. สมัยแรกอยู่ในยุคสุโขทัย ลักษณะกำแพงเมืองจะเป็นรูปวงรี สร้างเป็นคันดินและคูน้ำ ปัจจุบันยังสามารถพบได้ ตามถนนสันคูเมืองทั้งหมด อ้อมไปทางสำนักงานยาสูบเพชรบูรณ์ ตามคูน้ำข้างโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ไปจนบรรจบกับแนวถนนสันคูเมืองอีกทีหนึ่ง

       2. สมัยที่ 2 สร้างขึ้นประมาณยุคกลางของกรุงศรีอยุธยา สันนิฐานว่าน่าจะเป็นสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะมีกำแพงเมืองหลายแห่งได้ถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะอย่างเดียวกันในสมัยนั้นด้วย แนวกำแพงเมืองในยุคนี้จะมีลักษณะ 4 เหลี่ยมจัตุรัส และมีขนาดเล็กกว่ายุคสุโขทัย ประกอบด้วยป้อมปราการและกำแพงที่ก่อสร้างด้วยอิฐ โดยเฉพาะที่ประตูเมืองจะมีหินทรายประกอบจำนวนมากด้วยสาเหตุที่ต้องสร้างป้อมปราการและกำแพงเมืองให้แข็งแรงขึ้นนั้นเพราะได้มีการนำปืนไฟเข้ามาใช้ในการศึกสงครามระหว่างกันในภูมิภาคนี้ พระมหากษัตริย์ในสมัยนั้นจึงได้บัญชาให้หัวเมืองต่าง ๆ เปลี่ยนแนวกำแพงเมืองจากคันดินคูน้ำ ให้เป็นกำแพงอิฐถือปูนประกอบด้วยศิลา อันจะคงทนสามารถต่อสู้กับการยิงปืนไฟได้

          กำแพงเมืองในยุคที่ 2 ยังคงมีซากและแนวให้เห็น คือ ป้อมปราการ 4 มุม ซึ่งการสร้างป้อมทุกแห่งอยู่ล้ำแนวกำแพงออกมาเป็นลักษณะธนู

          - ป้อมที่ 1 คือป้อมที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในปัจจุบัน

          - ป้อมที่ 2 คือป้อมที่อยู่บริเวณทางเลี้ยวถนนหลักเมืองก่อนจะไปทางวัดโพธิ์เย็น

          - ป้อมที่ 3 คือป้อมที่อยู่ด้านในของถนนสนามชัยก่อนถึงแยกต้นหว้า

          - ป้อมที่ 4 คือป้อมที่อยู่บริเวณศาลเจ้าแม่ ตรงสุดถนนเพชรรัตน์ ซึ่งป้อมทั้งหมดจะก่อด้วยอิฐสูงกว่ากำแพงเมือง ด้านบนปูด้วยอิฐเป็นรูปก้างปลา มีอิฐที่เป็นรูไว้ใช้ปักเสาไม้เพื่อทำหลังคา

สถานการณ์สิ่งแวดล้อม

ป้อมปราการ ประตูเมือง และกำแพงเมืองเก่าของเมืองเพชรบูรณ์บางจุดขาดการดูแลถูกทิ้งร้าง บางจุดไม่หลงเหลือโบราณสถานให้เห็น

แก้ไขเมื่อ

2024-08-23

ข้อมูลสถิติ
หน่วยอนุรักษ์ฯ
ภาพประจำแหล่งศิลปกรรม
แผนงานและโครงการ
การเสนอแผนงานโครงการ
ปี แผนงาน ชื่อโครงการ รายละเอียด งบประมาณ เอกสาร สถานะ
รายงานผลการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ปี แผนงาน ชื่อโครงการ งบประมาณ วันที่รายงาน เอกสาร